ในที่สุด แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ประกาศศักดาด้วยการเป็นทีมแรกใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ที่หยุดสถิติชนะรวดของ อาร์เซน่อล ได้อย่างยอดเยี่ยม
ทีมของ เอริค เทน ฮาก ระเบิดฟอร์มซิวชัยในลีกได้เป็นเกมที่สี่ติดต่อกันแล้ว แถมเบรก เดอะ กันเนอร์ส ที่ชนะอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เปิดซีซั่นเอาไว้ที่ห้านัดเท่านั้นจากการฟาดแข้งที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ก.ย.ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

1.เทน ฮาก หา 11 ตัวแรกเจอแล้ว
แม้เกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีการโรเตชั่นทีมหลังจากใช้งาน 11 นักเตะชุดเดิมมาอย่างต่อเนื่องสามนัด แต่ก็พอจะบอกได้ว่า เทน ฮาก ควานหาทีมที่ดีที่สุดของเขาพบแล้ว และมันส่งผลทำให้ ผีแดง ซึ่งแพ้ในสองเกมแรกกลับมาสร้างผลงานชนะรวดสี่นัดติดต่อกัน

ต่อเกมกับ อาร์เซน่อล ผู้จัดการทีมชาว ฮอลแลนด์ ปรับทัพแค่รายเดียวให้ อันโตนี่ ลูกรักจากทีม อาแจ็กซ์ ประเดิมสนามเป็น 11 คนแรกทันทีแทนที่ แอนโธนี่ อีแลงก้า และปรากฏว่าการตัดสินใจของ เทน ฮาก ได้ผลเป็นอย่างดีเนื่องจากดาวเตะค่าตัว 100 ล้านยูโรซัดประตูได้ทันควันพาทีมออกนำ อาร์เซน่อล ได้สำเร็จเป็นการลดความกดดันให้กับตัวเองไปในตัวชนิดที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์ดังที่ยังตกเป็นตัวสำรองยังต้องปรบมือให้แสดงความยินดีกับสมาชิกใหม่ของสโมสร

นอกจากนี้ อันโตนี่ ซึ่งเป็นนักเตะแซมบ้าคนที่ 100 ที่ได้เล่นใน พรีเมียร์ลีก ยังกลายเป็นสตาร์ชาว บราซิล อายุน้อยที่สุดอีกด้วยที่พังประตูในเกม พรีเมียร์ลีก นัดประเดิมสนามได้ด้วยวัย 22 ปี 192 วัน

ขณะเดียวกัน มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็น่าจะได้ตำแหน่งที่ดีที่สุดของตัวเองแล้วเมื่อถูกจับลงเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้าในช่วงที่ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ยังบาดเจ็บหลังเคยถูกใช้งานในตำแหน่งปีกมาก่อน แต่ไม่เวิร์คเท่าที่ควร จนกระทั่งในเกมต้อนรับ เดอะ กันเนอร์ส สตาร์ทีมชาติ อังกฤษ แผลงฤทธิ์ซัดคนเดียวสองประตูซึ่งเชื่อได้เลยว่าเขาจะกลับไปอยู่ในสายตาของ แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ ทรี ไลอ้อนส์ อีกรอบหลังถูกมองข้ามมานานเนื่องจากฟอร์มตกแบบสุดกู่

2.ปืนใหญ่ ไม่ถูกโฉลกกับ โรงละคร
แล้วในที่สุด สถิติของ อาร์เซน่อล ในการบุกมาเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด ทำศึก พรีเมียร์ลีก ก็ยังย่ำแย่ต่อไปเนื่องจากทีมเมืองกรุงบุกมาคว้าชัยที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ได้แค่หนเดียวเท่านั้นจาก 15 ปีหลัง

แม้กระทั่งพวกเขาอยู่ในช่วงท็อปฟอร์มชนะมาห้าเกมรวด แต่เมื่อต้องลงเล่นในสนามอาถรรพ์ที่ไม่ถูกโฉลก ผลลัพธ์ก็ยังเป็นเหมือนเดิมโดยทีมของ เทน ฮาก สามารถยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้กับทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ได้เป็นรายแรกในซีซั่นนี้

ขณะเดียวกัน เดอะ กันเนอร์ส แพ้เกมเยือน ผีแดง ใน พรีเมียร์ลีก มากกว่าการออกไปเยือนคู่แข่งทุกรายด้วย (18 นัด) เพียงแต่พวกเขาเสียประตูให้กับ ลิเวอร์พูล ที่ แอนฟิลด์ มากที่สุด (69 ประตู) ตามด้วย โอลด์ แทรฟฟอร์ด (52 ประตู) เมื่อรวมเกมล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ก.ย.เข้าไป

พร้อมกันนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังสานต่อผลงานการเป็นทีมที่ได้ประตูนำคู่แข่งหลังจบครึ่งแรก และไม่แพ้ในเกม พรีเมียร์ลีก ได้ต่อไปโดยก่อนเกมสยบ อาร์เซน่อล พวกเขาไม่แพ้มานาน 119 นัดแล้ว (ชนะ 102 เสมอ 17) นับตั้งแต่ออกไปโดน เลสเตอร์ ขยี้ 5-3 เมื่อวันที่ 21 ก.ย.2014 ทั้งๆที่นำหน้าก่อนในครึ่งแรก 2-1

3.เชซุส ยังเท้าบอดเกมฟัด ผีแดง
นับตั้งแต่ย้ายมาจาก แมนฯ ซิตี้ กาเบรียล เชซุซ กลายเป็นศูนย์หน้าขาประจำของ อาร์เซน่อล ทันที และมีผลงานเปิดตัวที่น่าประทัยใจโดยเขาสอยตาข่ายไปแล้วสามเม็ดให้กับทีมจ่าฝูง

อย่างไรก็ดี แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในสามทีมที่กองหน้าทีมชาติ บราซิล ไม่เคยส่งบอลเข้าประตูได้เลย และในที่สุดเขาก็ยังทำไม่สำเร็จซึ่งรวมเกมล่าสุดด้วยก็กินเวลานานถึง 544 นาทีจาก 10 เกมเข้าไปแล้ว

สำหรับอีกสองทีมใน พรีเมียร์ลีก ที่ยังไม่เคยโดนอดีตดาวเตะทีม เรือใบสีฟ้า ยิงประตูได้แก่ คาร์ดิฟฟ์ กับ เบรนท์ฟอร์ด

4.ซาก้า เฮฉลองวันเกิดไม่สุด
บูคาโย่ ซาก้า กองหน้า อาร์เซน่อล ได้ของขวัญวันเกิดอายุครบ 21 ปีในวันจันทร์ที่ 5 ก.ย.อย่างที่เจ้าตัวตั้งเป้าเอาไว้จริงๆเมื่อสอยตาข่าย ปีศาจแดง ได้สำเร็จเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ของ เดอะ กันเนอร์ส

แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้ อาร์เซน่อล คว้าชัยชนะออกไปจาก โรงละครแห่งความฝัน ได้

"แน่นอนว่าผมหวังได้รับของขวัญวันเกิดอายุ 21 ปีเป็นชัยชนะเหนือ ยูไนเต็ด" ดาวเตะทีมชาติ อังกฤษ ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมโดยนัดก่อนที่เปิดบ้านสอย ผีแดง กลิ้ง 3-1 ในเกมลีกเมื่อเดือนเม.ย.เขายิงได้หนึ่งตุงด้วย

อย่างไรเสีย มีแค่ เชส ฟาเบรกาส รายเดียวเท่านั้นที่มีผลงานเหนือกว่า ซาก้า ในแง่ของการมีส่วนกับการทำประตูใน พรีเมียร์ลีก ให้กับ อาร์เซน่อล มากที่สุดก่อนมีอายุครบ 21 ปี

5.ได้เวลา โรนัลโด้
หลังคว้าชัยชนะเหนือ อาร์เซน่อล ได้สำเร็จ เป็นที่น่าสังเกตว่า เทน ฮาก ไม่น่าจะใช้งานนักเตะตัวเดิมยืนพื้นได้อีกแล้วในเกมต่อไปที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะเฝ้าบ้านฟัดกับ เรอัล โซเซียดาด ทำศึก ยูโรปาลีก กลางสัปดาห์นี้

ที่แน่ๆ แรชฟอร์ด ทำท่าว่าจะมีปัญหาที่กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง และถูกเปลี่ยนออกให้ กาเซมีโร่ ลงเล่นแทนในช่วงสิบนาทีสุดท้ายซึ่งมองดูแล้ว เทน ฮาก น่าจะให้ดาวยิงผิวสีได้พักในเกมมิดวีกซึ่งจะเป็นโอกาสที่ โรนัลโด้ มีสิทธิ์ถูกส่งลงบู๊เป็นตัวจริงซะที

ขณะเดียวกัน กาเซมีโร่ เองก็น่าจะถึงเวลาได้ออกสตาร์ตเป็นนัดแรกบ้างแล้วไม่ว่าเขาจะได้เสียบแทน คริสเตียน เอริคเซ่น หรือว่า สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ก็ตามเนื่องจากนายใหญ่ชาวเมืองทิวลิปสมควรโรเตชั่นทีมบ้างเพื่อถนอมพละกำลังของลูกทีมเอาไว้สู้ศึกแบบยาวๆตลอดทั้งซีซั่น

นอกจากนี้ ลิซานโดร มาร์ติเนซ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวกลั่นก็เป็นอีกรายที่โดนเปลี่ยนตัวในเกมชนะ เดอะ กันเนอร์ส โดยมี แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ลงเล่นแทนในช่วงสิบนาทีสุดท้ายเช่นกันเนื่องจากดูเหมือนว่าดาวเตะเลือดฟ้าขาวจะมีปัญหาบาดเจ็บรบกวนเข้าให้แล้ว