การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 23 ที่ประเทศกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคมนี้ บทสรุปทั้งหมดจะมีชิงชัยทั้งสิ้น 584 เหรียญทอง 38 ชนิดกีฬา โดยไทยส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน 877 คน จากการประเมินคาดว่าจะคว้าได้ 164 เหรียญทอง และมีเป้าหมายตำแหน่งเจ้าเหรียญทอง
ในส่วนดราม่าเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า กัมพูชาเรียกร้องจากไทยสูงถึง 28 ล้านบาท จนทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ทำไมไทยถึงต้องจ่ายแพงขนาดนี้ เนื่องจากปกติแล้ว ซีเกมส์ จะไม่มีการขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด แต่จะคิดเป็นเพียงค่าธรรมเนียมเท่านั้น เช่น ซีเกมส์ 2021 ที่เวียดนาม คิดราคาเพียง 10,000 เหรียญ (ราว 350,000 บาท) หรือจะย้อนกลับไปตอนซีเกมส์ 2019 ที่ฟิลิปปินส์ ก็คิดราคาเพียง 5,000 เหรียญ (ราว 175,000 บาท) เท่านั้น
ซึ่งหลังจากข่าวตัวเลขลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดนี้ออกมาสู่สาธารณชน ก็ทำให้กระแสในโลกโซเชียลมีเดียในหมู่แฟนกีฬาไทยต่างเห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกันว่า ถ้าจะโดนเอาเปรียบขนาดนี้ คนไทยไม่ต้องดูมหกรรมกีฬาพื้นบ้านครั้งนี้ก็ได้
ล่าสุด วัธ จำเริญ เลขาธิการคณะกรรมการจัดซีเกมส์ 2023 (CAMSOC) ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวว่า "หนึ่งเลยคือ ทางกัมพูชาไม่ใช่ฝ่ายกำหนดราคานี้"
"สองคือ ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับการเจรจาและมูลค่าทางการตลาด และเราทำตามมาตรฐานของทางซีเกมส์เสมอ เรากำหนดราคาที่ตายตัวไม่ได้ ผมหวังว่าสื่อรวมถึงประเทศอื่นๆ จะเข้าใจในเรื่องนี้"
"เป็นเรื่องปกติสำหรับประเทศที่มีมูลค่าทางการตลาดใหญ่กว่าก็จะต้องจ่ายราคาสูงกว่า ไทยจึงแพงกว่าทุกชาติในอาเซียน ซึ่งมันสมเหตุสมผลแล้ว"
