ช่วงเย็นเมื่อวานนี้ (26 พฤษภาคม 2565) ทีมชาติไทย อันดับ 111 ของโลก และ ทีมชาติเติร์กเมนิสถาน อันดับ 134 ของโลก เข้าร่วมการแถลงข่าวความพร้อม และการฝึกซ้อม Official Training ที่ศรีสะเกษ สเตเดียม สนามกีฬากลางจังหวัดแห่งใหม่ ก่อนลงเตะฟุตบอลอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ ตามมาตรฐานระดับ A แมตช์ ที่ฟีฟ่าให้การรับรอง และมีการคิดคะแนนสะสมฟีฟ่าแรงกิ้งเพื่อจัดอันดับโลก ในวันนี้ เวลา 17.30 น.
ทั้งนี้ ธีรศิลป์ แดงดา ศูนย์หน้าทีมชาติไทย สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่มาร่วมแถลงข่าว ถือเป็นนักเตะเพียงคนเดียวจากทั้งหมด 20 รายในทีมชุดนี้ซึ่งเดินทางมาอุ่นเครื่องที่ จ.ศรีสะเกษ ที่เคยมีประสบการณ์ในการลงสนามพบกับ เติร์กเมนิสถาน โดย "เจ้ามุ้ย" เป็น 11 คนแรกในทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ลงสนามในฟุตบอลชาย เอเชียนเกมส์ 2010 รอบ 16 ทีม ที่นครกว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อ 12 ปีก่อน
เกมนั้นแข่งขันเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ปี 2010 ซึ่ง ทีมชาติไทย ยู-23 ต้องเหลือ 10 คน หลังจาก วิชะยา เดชมิตร (สรรวัชญ์ เดชมิตร) โดนใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม แต่ยังสามารถเอาชนะ เติร์กเมนิสถาน ได้ด้วยสกอร์ 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ จากประตูชัยของ กีรติ เขียวสมบัติ นาทีที่ 106
นอกจากนี้ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูที่อยู่กับทีมชาติไทยในเกมอุ่นเครื่องที่ จ.ศรีสะเกษ ก็เป็นอีกคนที่มีชื่ออยู่ในทีมชุดเอเชียนเกมส์ 2010 ร่วมกับ ธีรศิลป์ แดงดา ด้วย แต่เกมกับ เติร์กเมนิสถาน ในวันนั้น "เจ้าตอง" มีอาการบาดเจ็บไม่ได้ลงสนาม และเป็น แซมมวล ป.คันนิ่งแฮม ที่ลงเฝ้าเสาแทน
ด้าน ธีรศิลป์ แดงดา ได้พูดถึง เติร์กเมนิสถาน ก่อนกลับมาเจอกันอีกครั้งในรอบ 12 ปีว่า "จากประสบการณ์ จริงๆ แล้วด้านฟุตบอลตอนนี้ก็เปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะ หลังจากเอเชียนเกมส์ 2010 ทั้งนักเตะและตัวผมเองก็ไม่ได้ติดตามฟุตบอลของ เติร์กเมนิสถาน หรือลีกอื่นๆ มากนัก"
"ส่วนครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่มาอุ่นเครื่องที่ศรีสะเกษด้วย เชื่อว่าเขาก็มีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาขึ้นมา เช่นเดียวกับทีมชาติไทย เราก็พยายามพัฒนาตัวเองมาตลอดในช่วงที่ผ่านมา ก็จะพัฒนาต่อไปอีก เกมนี้ก็เป็นการอุ่นเครื่อง เป็นเกมที่เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับ เอเชียนคัพ 2023 รอบคัดเลือก หวังว่าจะเป็นเกมที่ดี และเราจะสามารถเรียนรู้จากข้อผิดพลาด และนำมาปรับแก้ไข และเรียนรู้กันต่อไป"
ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ มีโปรแกรมอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ 2 นัด ดังนี้
27 พฤษภาคม 2565 เวลา 17.30 น. ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติเติร์กเมนิสถาน ที่ จังหวัดศรีสะเกษ
31 พฤษภาคม 2565 เวลา 19.00 น. ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติบาห์เรน ที่ บีจี สเตเดียม จังหวัดปทุมธานี
* ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 และ AIS PLAY ถ่ายทอดสดทั้ง 2 นัด เริ่มเข้าสัญญาณก่อนเวลาคิกออฟ 15 นาที
ทั้งนี้ ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ จะเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ 2023 รอบคัดเลือก โดยอยู่ในกลุ่มซี ร่วมกับเจ้าภาพ อุซเบกิสถาน, มัลดีฟส์ และศรีลังกา โดยมีโปรแกรมการแข่งขันดังนี้
วันที่ 8 มิถุนายน 2565 ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติมัลดีฟส์ ที่มาร์ซากีย์ สเตเดียม
วันที่ 11 มิถุนายน 2565 ทีมชาติศรีลังกา พบ ทีมชาติไทย ที่มาร์ซากีย์ สเตเดียม
วันที่ 14 มิถุนายน 2565 ทีมชาติอุซเบกิสถาน พบ ทีมชาติไทย ที่มาร์ซากีย์ สเตเดียม
สำหรับ การแข่งขันแข่งขันฟุตบอล เอเชียนคัพ 2023 รอบคัดเลือก จะนำทีมแชมป์กลุ่ม จาก 6 กลุ่ม และรองแชมป์กลุ่ม 5 จาก 6 กลุ่ม (รวมเป็น 11 ทีม) ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอล เอเชียนคัพ 2023 รอบสุดท้าย.
